วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ปากหม้อ (นามปากกา) นวนิยาย เรื่อง ตะวันในม่านเมฆ ตอนที่ ๙ ตามฝัน


ตอนที่ ๙
ตามฝัน




            ในระหว่างพักรักษาตัวที่บ้านของลลิณนั้น  จอมทัพก็ยังคอยช่วยงานหญิงสาวไม่ขาด ทั้งสองได้มีโอกาสพูดคุยและทำความรู้จักกันมากขึ้น เธอเห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของเขา เขาขอเธอกลับไปพักที่วัดเหมือนเดิมเมื่อหายป่วย และขอทำงานในไร่เหมือนเดิม แม้ว่าหญิงสาวจะให้เขาพักที่ไร่ก็ตาม ในขณะที่เขาป่วยนั้น เขามีความคิดว่าถ้าเขารู้จักวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้นคงไม่ต้องเสียเวลาไปนอนให้หมอรักษาที่โรงพยาบาล เขาจึงปรึกษาและขอคำแนะนำจากหลวงพ่อ  เรื่องการจะทำสวนสมุนไพรเพื่อช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆและสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับคนในชุมชนด้วย  เพราะเขาเคยได้อ่านข่าวว่าประเทศของเรานั้นปลูกสมุนไพรส่งขายให้ต่างประเทศ  หลวงพ่อแนะนำเขาให้ไปปรึกษากับแพทย์แผนไทยที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด 

          จอมทัพขอเช่าที่ชาวบ้านข้างๆไร่ของลลิณ ทำสวนสมุนไพร  โดยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล โดยเขาจะส่งสมุนไพรให้กับคณะวิจัยของทางโรงพยาบาล คิดค้น แปรรูปสมุนไพรต่างๆเป็นยาเม็ด และยาน้ำให้สามารถรับประทานได้ง่ายๆ สวนสมุนไพรของเขาดำเนินการไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไร  เพราะชาวบ้านบางส่วนยังคงเชื่อมั่นในยาที่มาจากต่างประเทศอยู่  แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อ  เขาหันมาศึกษา หาข้อมูล และทำงานร่วมคณะวิจัย  แปรรูปสมุนไพรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เกี่ยวกับการเกษตร และใช้ในชีวิตประจำวัน  เช่น  สมุนไพรน้ำสะเดาใช้ฉีดพ่นไล่แมลง และหนอนที่มากัดกินผัก สเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุง เทียนหอมกลิ่นต่างๆที่ใช้ในการบำบัดความเครียด โดยเริ่มใช้ที่ไร่ของลลิณก่อนทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดแมลงศัตรูพืช  และนำผลิตภัณฑ์ต่างๆไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่สนใจนำไปทดลองใช้ จนชาวบ้านเริ่มให้ความสนใจและหันมาใช้สมุนไพรในการบำรุง รักษา ผลผลิตทางการเกษตร เขาจึงร่วมมือกับชาวบ้านตั้งกลุ่มสมุนไพรไทยปลูกสมุนไพรส่งให้กับโรงพยาบาลเป็นหลัก และผลิตใช้เองในชุมชน ชายหนุ่มต้องการให้กิจกรรมนี้อยู่คู่กับสังคมที่นี่ จึงร่วมมือกับโรงเรียนจัดทำหลักสูตรสมุนไพรไทยขึ้นให้นักเรียนได้ศึกษา ปลูก  และทำผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร  เช่น  ยาดม  เทียนหอม  ยาหม่อง  ธูปไล่ยุง ฯลฯ นำไปวางขายที่วัด  หรือจัดเป็นของชำร่วยในงานต่างๆ โดยเขาขอให้ลลิณออกแบบแพคเกจของผลิตภัณฑ์ให้สวยงาม  และประกาศขายออนไลน์ ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก

จอมทัพจึงเพิ่มกำลังในการผลิตมาที่ผู้สูงอายุในชุมชนทำให้ผู้สูงอายุมีงานทำมีการทำกิจกรรมร่วมกัน สุขภาพจิตก็ดีขึ้น  ลูกหลานก็สามารถไปทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลและเป็นห่วงผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว  คนเฒ่าคนแก่ก็มีความสุข รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น ไม่เป็นภาระให้กับลูกหลาน 

          ทางด้านลลิณก็กำลังขยายผลจากสิ่งเธอได้ไปสัมมนามาให้กับคนในชุมชน  เริ่มจากการผลิตปุ๋ยชีวภาพ และทดลองปลูกเห็ด เพื่อใช้ในการประกอบอาหารให้กับลูกค้าที่มาพักที่โฮมสเตย์ของเธอ เธอลองปลูกที่ไร่ของเธอก่อนถ้าได้ผลดีเขาจึงจะขยายผลให้กับชาวบ้านต่อไป

          กิจกรรมของคนทั้งคู่เริ่มดำเนินการได้ดี ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมีเวลาที่จะสานสัมพันธ์กับหญิงสาวมากขึ้น เขาชวนหญิงสาวไปปิกนิคที่น้ำตกที่แบงค์พาเขาไป 
          “ คุณจอมทัพ รู้ได้อย่างไรคะ ว่ามีน้ำตกสวยๆอยู่ที่นี่  ดิฉันเป็นคนที่นี่เสียอีก แต่ลืมไปแล้วว่ามีสถานที่สวยๆแบบนี้ ”
          “ คุณลิณทำงานหนักมากกว่าครับ  จนไม่มีเวลาพักผ่อน แบงค์พาผมมาเที่ยวตอนที่คุณลิณไปสัมมนาที่จังหวัดไงครับ  แล้วเมื่อไหร่คุณจะเลิกเรียกผมเต็มยศเสียที  และเลิกแทนตัวเองว่าดิฉันเสียที่  ผมว่ามันห่างเหินจังเลยนะครับอยากให้คุณเรียกผมว่า พี่จอม  และแทนตัวเองว่าลิณเหมือนที่คุณพูดกับป้าน้อม และชาวบ้านได้ไหมครับ ”
          “ ขอเวลาให้ฉันอีกสักหน่อยนะคะ  ให้ดิฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ  และมั่นใจในตนเองก่อน  เมื่อถึงวันนั้นฉันจะเรียกคุณเองค่ะ ”

          ชายหนุ่มและหญิงสาวรับประทานอาหารเที่ยงริมน้ำตก  บรรยากาศดีมาก  ชายหนุ่มลงเล่นน้ำ  เขาว่ายน้ำดำผุด ดำว่าย อย่างสบายใจ  หญิงสาวมองไปที่ชายหนุ่ม  เขาเปลี่ยนไปอย่างมากจากคนที่เคร่งเครียด หยิ่งยโส กลายเป็นผู้ชายที่ผ่อนคลาย  สบายๆ  อบอุ่น  เขาเปลี่ยนไปได้จริงๆหรือ  หญิงสาวคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
          “ อะแฮ้ม  คิดอะไรอยู่ครับ  ผมเรียกตั้งนาน ไม่ยอมตอบเลย คิดอะไรกับผมรึเปล่าเนี่ย ”
          “  บ้าหรือคุณ  ฉันก็คิดของฉันไปเรื่อยแหละค่ะ แต่ขอบอกว่าในความคิดไม่มีคุณอยู่เลย ”
          “ ว้า  อุตส่าห์ แอบดีใจ  นกเลยเรา  ไม่เป็นไรครับ  ผมสู้ไม่ถอยแน่  ว่าแต่คุณไม่เล่นน้ำหรือครับ  น้ำเย็นสดชื่นมากๆเลย ”
          “  ไม่ดีกว่าค่ะ  วันนี้ฉันไม่ค่อยสะดวก ”
          “  งั้นผมขอเล่นน้ำต่ออีกหน่อยนะครับ ไม่เคยสบายใจแบบนี้มาก่อนเลย ”
          “  ตามสบายเลยนะคะ  ฉันขอเดินสำรวจรอบแถวนี้ก่อน ” 
เมื่อเวลาบ่ายกว่าๆ  ทั้งคู่ก็พากันกลับบ้าน
“ ลิณ ป้าว่า คุณจอมคนนี่ก็น่าสนใจดีนะ  เสียอย่างเดียวไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ”
“ ป้า ก็ พูดอะไร ” 

ป้าน้อมมองพฤติกรรมหลานสาวก็รู้ว่า เริ่มมีใจให้ชายหนุ่มแล้วแน่ๆ งานนี้มีลุ้นแน่เลย ฝ่ายชายหนุ่มก็เช่นกันเขาเริ่มมีความหวัง และมองออกว่าหญิงสาวเริ่มมีใจให้เขาบ้างแล้ว ต่อไปคงเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องพิสูจน์ให้หญิงสาวเห็นความจริงใจของเขา และเชื่อมั่นในตัวเขา  เขาจะอดทนเพื่อให้มีวันนั้น และวันนั้นมาถึงในเร็ววัน

         


                                                                                                         ปากหม้อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น