ตอนที่ ๗
จุดประกาย
“น้าจอม ครับ น้าจอมๆ
ตื่นยังครับ หลวงพ่อให้มาเรียกครับ ”
จอมทัพสะดุ้งตื่น พร้อมขานรับ “ ครับ
เดี๋ยวน้าไป ” ชายหนุ่มรีบสะบัดผ้าห่มพับเก็บอย่างรีบเร่ง
ทำกิจวัตรประจำวันอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปรวมกับเด็กวัดที่เตรียมออกบิณฑบาตกับพระ
“
เป็นไงบ้างล่ะโยม หลับสบายดีมั้ย ”
“ ดีครับหลวงพ่อ ผมไม่เคยนอนหลับสบายแบบนี้มาก่อนเลย และขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้รอ ” หลวงพ่อพยักหน้าแล้วออกเดินไป
ในระหว่างเดินตามขบวนพระสงฆ์
ชายหนุ่มได้สัมผัสบรรยากาศที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสมาก่อน ผู้คนที่นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยทักทายกับเขาเสมือนญาติมิตร
อากาศยามเช้าสดชื่น ลมพัดผ่านเย็นสบาย เขารู้สึกโล่งและสบายใจเป็นพิเศษ
ไม่คิด ไม่วิตกกังวลใดๆ เขาได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นพิเศษด้วยรูปร่างหน้าตา และเป็นคนใหม่สำหรับที่นี่ เขารู้สึกชอบที่นี่แล้วล่ะ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาขออนุญาตหลวงพ่อ ออกสำรวจชุมชนทันที หลวงพ่อให้เด็กวัดปั่นจักรยานพาไปเพราะกลัวชายหนุ่มหลงทาง
ชายหนุ่มและเด็กชายแบงค์ ปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านเรือนและสวนไร่นาของชาวบ้าน ก็จะได้ยินเสียงใสๆดังขึ้น
“แบงค์ พาใครมาล่ะ
จะพากันไปไหน
แวะดื่มน้ำเย็นๆก่อนสิ
อากาศมันร้อน
เดี๋ยวคุณเขาเป็นลมเป็นแล้งไปก่อนนะ ” สาวน้อย ส่งเสียง ทักทายมาจากกลางไร่
“ แหม พี่พิม เสียงใสเชียวนะ พาน้าจอม มาชมหมู่บ้านเราครับ น้าเขาอกหักมาจากกรุงเทพฯ เลยมาทำใจที่บ้านเรา มาอยู่ที่วัดกับหลวงตา น้าอยากมาเที่ยวบ้านนอก หลวงตาเลยให้พามาครับ” เด็กชายหยุดรถเดินเข้าไปพักใต้ร่มไม้ใหญ่
ส่งเสียงตอบพร้อมอธิบายที่มาที่ไปของเขาเรียบร้อยเสร็จสรรพ สาวน้อยผู้มีนามว่าพิม
ปลดหน้าคลุมหน้าออก มองชายหนุ่มด้วยท่าทีขวยเขิน และร้องเพลงทัก
“แน่ใจนะว่ามาเพื่อรักษาตัว
ผู้ชายจากกรุงเทพดูน่ากลัวทุกคนสาวสาวในจังหวัดนี้ ซื่อซื่อตามไม่ทันพี่หรอกหนา
ไม่ได้มาเพื่อลวงใครใช่ไหม ”
ไม่ได้มาเพื่อลวงใครใช่ไหม ”
“ ภูมิแพ้กรุงเทพฯหรือคะคุณ สนใจคนดามใจไหมคะ แต่คงสวยสู้สาวเมืองกรุง ไม่ได้หรอกนะคะ”
“ กลัวเหมือนในเพลงนี้เนาะ
แบงค์ ” หญิงสาวหันไปพูดกับเด็กน้อย
“ ผมไม่รู้ ผมนอนนา
ถามน้าจอมเองดีกว่า ” ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มตอบ พอพักหายเหนื่อยทั้งสองก็พากันเดินทางไปต่อ
“ คนที่นี่ เป็นแบบนี้แหละครับ พูดตรงๆ มีอะไรก็ถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม จริงใจ
เราไปต่อที่ไร่คุณลลิณ และพักกินข้าวเที่ยงที่นั่นนะครับ”
“ กินไงล่ะแบงค์ เราไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ” เด็กชายไม่ตอบ แต่พาเขาปั่นจักรยานต่อไปเรื่อยๆ
จนถึงไร่ที่หมาย
“ถึงแล้วครับ น้าจอม
”
ชายหนุ่ม มองไปรอบๆไร่ เขารู้สึกทึ่งในตัวหญิงสาวมากขึ้น
ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำงานได้ขนาดนี้เชียวหรือ เท่าๆกับผู้ชายอกสามศอกเลยทีเดียว
“ คนงานเยอะจังเลยนะแบงค์ ”
“ ไม่ใช่คนงานครับน้า เขาเรียก หุ้นส่วนทางความคิดครับ ทุกคนช่วยกันทำงาน ช่วยกันพัฒนาชุมชนให้อยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง คุณลิณ บอกว่า
จะพาชาวบ้านเดินตามรอยเท้าพ่อหลวงครับ
ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรดอกครับ คุณครูที่โรงเรียน และหลวงพ่อก็พูดเหมือนกันนี่แหละครับ” แบงค์พาชายหนุ่มเดินชมไร่และทักทายคนในไร่ไปเรื่อยๆ
ทุกคนทักทายเขาเหมือนรู้จักกันมานาน พร้อมชื่นชมเจ้าของไร่ให้เขาฟังอย่างไม่ขาดปาก ทำให้เขาทึ่งเพิ่มเข้าไปอีก
“แบงค์ ยังไม่ตอบน้าเลยนะ
ว่าเราจะกินข้าวเที่ยงที่ไหน อย่างไร ”
“ ผมกำลังจะพาไปครับ ไปครับไปกินข้าวเที่ยงแบบลูกทุ่งกัน ” เด็กน้อยพาเขาเดินเลาะเก็บผัก ผลไม้ ที่มีอยู่ไปด้วย
“ ถึงแล้วครับ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ”
“สวัสดีครับ
ป้าน้อม นี่น้าจอมครับ เป็นญาติหลวงพ่อมาพักอยู่ที่วัดครับ คุณลิณและตาสินไปไหนครับ
ไม่เห็นไปหาหลวงพ่อหลายวันแล้ว ”
“ หวัดดีจ้า
แบงค์ ไหว้พระเถอะคุณ
เหนื่อยหน่อยนะคุณมากับเจ้านี่
ชาติก่อนสงสัยมันเป็นลูกพระพาย
ทั้งซนทั้งพูดเป็นต่อยหอยเลย มาๆ นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อน
ค่อยคิดว่าจะทำอะไรกินกัน ”
“ แหม ป้าน้อม ผมถือว่าเป็นคำชมนะนี่ แต่ไม่ต้องชมผมขนาดนั้นก็ได้ ”
“
เพลินดีครับป้า
แบงค์เป็นไกด์ได้ดีมากเลย
ผมได้รู้เรื่องต่างๆ มากมายเลย ”
“หนูลิณและตาสิน
ไม่อยู่ ไปในเมืองจ้า หนูลิณไปสัมมนา
เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์
เลยถือโอกาสพาตาสินไปพักผ่อนและเยี่ยมเพื่อนฝูงน่ะจ้า อีกสองวันก็กลับแล้ว ”
“เสียดายนะครับน้า อดเจอคุณลิณเลย คุณเขาสวย เก่ง ใจดี ที่สำคัญ ยังไม่มีแฟนครับ เผื่อจะดามใจน้าได้
” เด็กน้อยกระซิบบอกชายหนุ่ม เขายกมือจะเขกหัว เพราะความทะเล้นของเด็กน้อย มันช่างตรงกับใจเขาเสียจริง
เขามาอยู่ที่นี่ไม่เท่าไรแต่เขาได้รู้จักลลิณ มากขึ้น เขาได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ รวมถึงสิ่งที่ทำในขณะนี้ด้วย เขาและแบงค์กำลังทำอาหารเที่ยงจากวัตถุดิบที่แบงค์เก็บมา มีชะอม
ชะพลู ดอกแค แมงลัก
ตำลึง และอีกหลายอย่าง ที่เขารู้จักบ้างและไม่รู้จักบ้าง
เมื่อแบงค์เอาสิ่งที่เก็บมาให้ป้าน้อมดู ป้าบอกว่า เมนูเที่ยงนี้ คือ แกงแค ชายหนุ่มสงสัยจึงขอทำอาหารด้วย ป้าบอกว่า เขาและแบงค์ต้องทำเอง กินเอง จะได้รู้ถึงคุณค่า และความลำบากในการทำ แต่ครั้งนี้ป้าจะคอยช่วยและแนะนำก่อนเพราะมีเด็กและคนไม่เคยทำอาหาร
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เข้าครัว มันสนุกและฉุกละหุกมากเลย เสียงในครัวดังลั่นไป
จนคนในไร่หลายคนแอบมาด้อมๆมองๆดู และในที่สุด ก็ได้แกงแคปลาแห้งกับผักรวม เขารู้แล้วว่าแกงแคนั้นคล้ายๆกับแกงเลียงของภาคกลางนั่นเอง
แกงร้อนๆ กับข้าวสวยร้อนๆ
ฝีมือของพวกเขาเอง อาหารแสนจะธรรมดา แต่มันอร่อยกว่าอาหารในร้านหรูๆที่เขาเคยกินเสียอีก ป้าน้อมเหมือนจะรู้ใจว่าเขาคงจะเผ็ดจึงยกไข่เจียวมาเพิ่มให้
ตบท้ายด้วยฝรั่งหวานกรอบ ปลอดสารพิษ วันนี้เขากินคลีนจริงๆ คลีนจนเกลี้ยงทุกอย่างเลย
เมื่อกินเสร็จทุกคนต้องช่วยกันทำความสะอาด และช่วยงานในไร่เป็นการตอบแทน นี่คือกฎของคนที่นี่ มันเป็นกฎสำหรับคนในชุมชนเท่านั้น
ทุกอย่างกินได้และได้กินฟรี เมื่อเก็บมาแล้วต้องกินให้หมด แต่สำหรับนักท่องเที่ยวก็เป็นอีกแบบหนึ่ง
และพิเศษสำหรับเด็กในชุมชนนี้ เมื่อมาที่นี่ต้องเขียนรายงานส่งคุณครูด้วย คุณครูก็จะรวบรวมและนำผลงานไปไว้ที่ห้องสมุดให้คนอื่นได้ศึกษาต่อไปและมีการลงคะแนนจากคนอ่านด้วย
มีการมอบรางวัลทุกสิ้นเดือน แบงค์บอกเขาว่า
แกงแคถ้วยนี้จะต้องได้รางวัลแน่ๆเพราะยังไม่มีใครเคยทำเลย เขาและแบงค์ช่วยชาวบ้านดายหญ้า ปลูกผัก
รดน้ำผัก
เก็บผลผลิตต่างๆเพื่อนำไปขายในตลาดของชุมชน
พวกเขาทำงานจนเย็น
จึงได้พากันกับวัด ชายหนุ่มรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว เหนื่อยแต่สนุก พอถึงวัดจึงอาบน้ำ
วันนี้เขาสนุกมากๆ เขาเริ่มเข้าใจความสำคัญของเงินและมิตรภาพมากขึ้น อีกสองวันเขาจะได้เจอหญิงสาวผู้จุดประกายฝันเขาเสียที
เธอจะรู้บ้างไหมนะ ว่า ยังมีอีกคนที่คิดถึงและเฝ้ารอการกลับมาของเธอ เขาคิดถึงเธอจนหลับไปไม่รู้ตัว
ปากหม้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น